HOT

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563

5 อันดับ สถานที่สยองขวัญในไทยที่ไม่มีใครอยากเห็น




5 อันดับ สถานที่สยองขวัญในไทยที่ไม่มีใครอยากเห็น

               สำหรับสถานที่ในไทยยังมีอีกหลายสถานที่ถูกปล่อยทิ้งร้างเพราะมีเรื่องราวชวนขนหัวลุก แบบที่ว่าไม่อยากได้ยินชื่อหรือไม่อยากได้ยินเสียงกับสถานที่เหล่านี้


  • วัดมหาบุศย์ พระโขนง ยังเป็นสถานที่ที่ใครหลายคนต่างรู้จักกันดี เป็นศาลย่านาคที่มีตำนานรักที่หลายคนรู้จักกันอย่างดี ซึ่งในสมัยนั้นผีแม่นาคอาละวาดหลอกชาวบ้านจนสร้างความหวาดกลัว และเจ้าประคุณสมเด็จโต ได้นำวิญญาณแม่นาคไปพร้อมกับกระดูกหน้าผากเพื่อนำไปสอนเรื่องการรักษาศีลเพื่อต้องการให้หลุดพ้นจากความทุกข์

  • ซอยสายหยุด อู่รถเมล์เก่า หรือจะเรียกว่าสุสานรถเมล์ก็ได้ เพราะจะเป็นที่จอดรถที่ไม่ได้ใช้การหรือมีประวัติคนตายโหงคารถ ซึ่งเป็นที่เลื่องลือกันว่าบางครั้งที่นี่ก็จะมีไฟหน้ารถติดขึ้นมาเองได้หรือมีคนมาโบกรถที่หน้าอู่ เมื่อเท็กซี่มาจอดรับกลับไม่พบใครหรือบางครั้งก็มีคนวิ่งมาตัดหน้ารถเป็นประจำ

  • ซอยรอดอนันต์ 1 ถ.สุขาภิบาล1 ซึ่งเป็นลักษณะของบ้างร้างทรงไทยหลังหนึ่งที่อยู่ไกลจากบ้านคนอื่น และมีต้นไม้จำนวนมาก โดยบ้านหลังนี้มีผู้เสียชีวิตและเชื่อว่าคุณยายที่ตตายไม่ยอมไปไหนยังคงวนเวียนอยู่ในบ้านหลังนี้ และเคยมีคนเห็นว่ามีคนแก่มาชี้นิ้วที่หน้าบ้านเมื่อเด็ก ๆ วิ่งเล่นแถวนั้นหรือบางครั้งใครที่เข้ามาลองดีภายในบ้านก็จะได้ยินเสียงคนแก่ขู่ขับไล่จนไม่มีใครกล้าเข้ามาในละแวกนี้

  • โรงงานร้างอยู่ในอุตสาหกรรมบางปูซึ่งเป็นโรงงานที่เคยผลิตรองเท้ามาก่อน และกำลังทำธุรกิจไปได้ดี แต่ก็มีเรื่องราวของอุบัติเหตุเกิดขึ้นมา จากเครื่องปั๊มลมระเบิดและคนงานตายเกลื่อน และมีผู้คนถูกหลอก จนทำให้หลายคนลาออก จากนั้นไม่นานเจ้าของก็ยิงตัวตายที่โรงงานทำให้กลายเป็นโรงงานร้างไปในที่สุด ซึ่งในทุกวันนี้ก็ยังมีอุปกรณ์และรองเท้าเกลื่อนโรงงานแห่งนี้อยู่

  • หมู่บ้านปิยพร เป็นเนื้อที่มากกว่า 100 ไร่ ซึ่งเก่าเก่าแก่กล่าวว่าที่นี่เคยเป็นป่าช้ามาก่อนและเจ้่าของโครงการไม่ได้ทำพิธีเพื่อขออนุญาต และระหว่างการก่อสร้างก็ต้องพบกับอุปสรรคหลายอย่าง รวมถึงเกิดอุบัติเหตุทำให้ถึงแก่ความตายหลายคนและทางเข้าหมู่บ้านก็มีบึงน้ำที่มีเด็กจมน้ำตายหลายคน  ทำให้โครงการนี้ไม่สามารถไปต่อได้ จึงกลายเป็นโครงการร้างและไม่มีใครกล้าจะผ่าน หากใครที่หลงผ่านไปก็จะพบกับสิ่งที่เล้นลับหลอกหลอนมานับไม่ถ้วน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น