9 ชนิดผักที่ไม่ควรกินดิบมากเกินไปเสี่ยงต่ออันตราย
ขึ้นชื่อว่าผักนั้นมีประโยชน์
แต่ว่าผักบางชนิดก็ไม่ควรที่จะทานให้มันมากเกินไปหรือทานดิบเสี่ยงที่จะให้โทษต่อร่างกายได้อย่างไม่น่าเชื่ออาจเป็นการสะสมสารอันตรายต่อร่างกาย
โดยมีดังนี้
- กะหล่ำปลี นับว่าเป็นผักที่มีวิตามินซีสูง ควรเลือกทานแบบปรุงสุกก่อนรับประทานจะพีกว่า เพราะในกะหล่ำปลีจะมีสารออกซาเลต โดยสารตัวนี้จะมีผลต่อกรวยไตมาก ๆ เสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว และมีน้ำตาลชนิดหนึ่งที่ระบบร่างกายไม่สามาถย่อยสลายได้จะทำให้ท้องอืด แน่นท้อง
- ดอกกะหล่ำ คนป่วยไฮโปไทรอยด์ต้องระวังหากจะกินดิบจะมีกอยโตรเจน ส่งผลทำให้ระบบร่างกายดึงไอโอดีนจากเลือดไปใช้ได้น้อยกว่าปกติ เป็นไปได้ก็ควรเลี่ยงที่จะทานแบบสุกจะดีกว่าที่เราทานแบบดิบหากต้องการผัก
- บรอกโคลี เป็นผักที่อยู่ในตระกูลเดียวกับดอกกะหบล่ำหรือกะหล่ำปลี เมื่อต้องการทานบรอกโคลีควรเลือกที่จะปรุงอาหารให้สุกจะดีที่สุด เพราะบรอกโคลีดิบจะใมีฮอร์โมนบางขชนิดที่เป็นตัวกระตุ้นเสี่ยงให้เกิดโรคไทรอยด์ แต่เมื่อทำให้ถูกความร้อนก็จะช่วยให้ลดโทษได้ง่ายมากขึ้น
- ถั่วฝักยาว จะเป็นผักที่มียาฆ่าแมลงสูงมาก เมื่อทานแบบดิบ ๆ จะเสี่ยงต่อสารพิษปนเปื้อนจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ควรเลือกที่จะล้างทำความสะอาดให้มากที่สุด และเวลาทานควรเลือกทานแบบสุก ๆ จะดีกว่า
- ถั่วงอก เรียกได้ว่าเป็นผักที่มักจะนิยมทานแบบดิบ ๆ โดยจะมีการปนเปื้อนแบคทีเรียซัลโมเนลลา และอีโคไล ซึ่งเป็นสารฟอกขาวที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้ามักจะนำมาฟอกให้ถั่วงอกมีสีขาวน่าทานมากขึ้น เสี่ยงทำให้เกิดการคลื่นไส้ ปวดท้อง ความดันต่ำ
- หน่อไม้ เป็นผักที่มีสารไซนาไนด์ ซึ่งเป็นพิษต่อกาย หากได้รับในปริมาณที่มากเกินจะทำให้ร่างกายขาดอากาศหายใจ หมดสติ เสียชีวิตได้ ควรนำมาปรุงทานแบบสุกจะดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยควรต้มอย่างน้อย 10 นาที
- มันสำปะหลัง หากรับประทานแบบดิบในส่วนหัว ราก ใบ อาจมีพิษทำให้ถึงตายได้ จากการทำลายระบบหัวใจ ทางเดินโลหิต เกิดอาการเวียนศรีษะ ปวดหัว คลื่นไส้ ถ่าย อาเจียน
- ผักโขม หากทานแบบดิบ ๆ จะมีมีกรดออกซาลิกที่เป็นตัวขัดขวางไม่ให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็กไปใช้ จึงควรปรุงให้สุกเพื่อทานได้อย่างปลอดภัย
- เห็ด ตรวจพบสารอะการิทีนเป็นสารก่อมะเร็ง เราจึงไม่ควรเลือกทานเห็ดสด เพราะเมื่อเรานำมาปรุงสุกปัญหาเรื่องสารก่อมะเร็งจึงไม่มีเกิดขึ้นมาเป็นอันตรายต่อร่างกาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น